วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บุคลากรทางการศึกษา




บุคลากรทางการศึกษา

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นบุคลากรของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในราชการไทย ในอดีตมีชื่อเรียกว่า "ข้าราชการครู" ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการครูที่สังกัดการปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ข้าราชการครูองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานครูเทศบาล พนักงานครูองค์การบริหารส่วนตำบล ปัจจุบันมี 3 ประเภท
ประเภท ผู้สอนในหน่วยงานทางการศึกษา ประกอบด้วยตำแหน่งต่างๆ ได้แก่
  1. ครูผู้ช่วย ในราชการส่วนท้องถิ่นมีตำแหน่ง ครูผู้ดูแลเด็ก (หรือ ครู ผดด.) และหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (หรือ หน.ศผด.) ซึ่งเทียบเท่าครูผู้ช่วย
  2. ครู
  3. อาจารย์
  4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์
  5. รองศาสตราจารย์
  6. ศาสตราจารย์


วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แบบทดสอบก่อนสอบ

https://docs.google.com/forms/d/1XoZGgHrRWgczbJ51kDGV9Y078RYgqaPktjq0EgssN0A/edit

คำควบกล้ำ




คำควบกล้ำของไทย

คำควบกล้ำ  หมายถึง  คำที่มีพยัญชนะสองตัวเขียนเรียงติดกันอยู่ต้นพยางค์และใช้สระเดียวกัน เวลาอ่านออกเสียงกล้ำเป็นพยางค์เดียวกัน   เสียงวรรณยุกต์ของพยางค์นั้นจะผันเป็นไปตามเสียงพยัญชนะตัวหน้า
            คำควบกล้ำ  มี  ๒ ชนิด คือ  คำควบแท้  และ  ควบไม่แท้
            คำควบแท้ ได้แก่ พยัญชนะ ร  ล  ว  ควบกับพยัญชนะตัวหน้า ประสมสระตัวเดียวกัน
เวลาอ่านออกเสียงพยัญชนะทั้งสองตัวพร้อมกัน เช่น
           พยัญชนะต้นควบกับ ร ได้แก่   พร้อม  เพราะ   ใคร   กรอง  ครองแครง ขรุขระ
พระ ตรง ครั้ง  กราบ โปรด ปรักปรำ  ปรับปรุง   ครื้นเครง  เคร่งครัด  ครอบครัว  โปร่ง
          พยัญชนะต้นควบกับ ล ได้แก่  กลบเกลื่อน  กลมกลิ้ง  เกลี้ยกล่อม  เกลียวคลื่น  
คลื่อนคล้อย   ปลา   ปลวก  ปล่อย    เปลี่ยนแปลง    คลุกคลาน   เพลิง   เพลิดเพลิน  
คล่องแคล่ว 
          พยัญชนะต้นควบกับ ว ได้แก่  แกว่งไกว   กวาด  กว่า   ขวาง  ขว้างขวาน ขวิด 
แขวน ขวนขวาย   ควาย    เคว้งคว้าง   คว่ำ  ควาญ   ความ  แคว้น ขวัญ ควัน

          คำควบไม่แท้ 
         
คำควบไม่แท้ ได้แก่ พยัญชนะ ร ควบกับพยัญชนะตัวหน้าประสมสระตัวเดียวกัน
เวลาอ่านไม่ออกเสียง ร  ออกเสียงเฉพาะตัวหน้าหรือมิฉะนั้นก็ออกเสียง เป็นเสียงอื่นไป
         คำควบไม่แท้ที่ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะตัวหน้า  ได้แก่พยัญชนะ จ  ซ  ศ  ส
ควบกับ ร เช่น จริง ไซร้ เศร้าสร้อย  ศรี   ศรัทธา  เสริมสร้าง  สระ  สรง  สร่าง
         คำควบไม่แท้ ท ควบกับ ร แล้วออกเสียงกลายเป็น ซ ได้แก่ ทรง ทราบ ทราม ทราย แทรก ทรุด




วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

เพลงเพราะๆ


ศึกษาศาสตร์

มะเขือเทศ
มะเขือเทศ ( Tomato ) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด
ลักษณะเป็นพืชล้มลุกอายุเพียง 1 ปี ลำต้นตั้งตรง มีลักษณะเป็นพุ่ม มีขนอ่อน ๆ ปกคลุม ใบเป็นใบประกอบ ออกสลับกัน ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กรียาว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยักลึกคล้ายฟันเลื่อยมีขนอ่อน ๆ ออกดอกเป็นช่อหรือดอกเดี่ยว บริเวณซอกใบ ดอกมีสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียวประมาณ 5-6 กลีบ ผลเป็นผลเดี่ยว มีขนาดรูปร่างและสีต่างกัน ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร จนถึงใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกลีบเป็นมัน ผลดิบมีสีเขียว หรือเขียวอมเทา เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำมีรสเปรี้ยว เมล็ดมีเป็นจำนวนมาก มะเขือเทศมีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์สีดา พันธุ์โรมาเรดเพียร์ เป็นต้น


ประโยชน์ของมะเขือเทศ
1.) มะเขือเทศมีสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นจึงใช้เป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับปากที่เกิดจากเชื้อราได้
2.) มะเขือเทศมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ ไลโคปีน ที่มีคุณสมบัติสามารถลดการเกิดมะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ หากทานมะเขือเทศ 10 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีบีตา-แคโรทีน และฟอสฟอรัสมาก ที่มะเขือเทศมีรสชาติอร่อยนั้น เพราะมีกรดอะมิโนที่ชื่อกลูตามิคสูง กรดอะมิโนนี้เองเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหาร ทั้งยังเป็นกรดอะมิโนตัวเดียวกับที่อยู่ในผงชูรสด้วย
3.) รักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรืออาจจะนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่ม
4.) ในผลมะเขือเทศมีสารจำพวก แคโรทีนอยด์ ชื่อไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง มีกลดมาลิค กรดซิตริก ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารบีตา-แคโรทีน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น
5.) มะเขือเทศมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง เพราะมะเขือเทศมี วิตามินพี (citrin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดันโลหิตสูง มะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย
6.) ช่วยบำรุงผิวลดริ้วรอย ผิวพรรณไม่แห้งกร้าน ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังสามารถต้านมะเร็งได้ด้วย
7.) ซอสมะเขือเทศสามารถนำมาใช้หมักผมได้ โดยจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผมอันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มี คลอรีน และยังนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามได้เหมือนเดิม